เรื่องราวของคุณหน่อง ซึ่งรวยด้วยฮวงจุ้ย
คุณหน่องมีอาชีพเป็นพนักงานขายวัสดุก่อสร้างของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งใจทำงานด้วยความขยันขันแข็ง มีมานะอดทนมากว่า 10 ปี แต่ก็ยังไม่รวย จึงเริ่มรู้สึกเบื่อการเป็นลูกจ้าง อยากที่จะเริ่มต้นการเป็นเจ้านายของตนเองดูบ้าง โดยได้มีความคิดที่จะเปิดบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านประเภทลูกบิดประตู กลอน มือจับ และราวแขวนผ้า แต่เนื่องจากมีทุนทรัพย์น้อยจึงได้เริ่มต้นด้วยกิจการขนาดเล็ก คือ พนักงาน 2 คน คือ ตัวเธอและเสมียนอีกหนึ่งคนคอยทำงานเอกสาร เรียกว่าต้องทำคนเดียวทุกอย่างประเภทที่ เป็นผู้จัดการ…วงเล็บว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเอง
คุณหน่อง ได้ติดต่อมาหา อ.มาศให้ช่วยไปดูฮวงจุ้ย เพื่อหาทำเลเปิดสำนักงานแถวแฮปปี้แลนด์ โดยสนใจที่จะซื้อห้องชั้นล่างของคอนโด เพื่อที่จะใช้เปิดเป็นหน้าร้านและสำนักงาน เนื่องจากยังไม่มีงบพอที่จะซื้อตึกแถวได้ ซึ่งพอดีมีเหลืออยู่ 3 ห้องที่ยังไม่มีคนจอง เนื่องจากหันหน้าไปตรงกับช่องลมของตึกฝั่งตรงกันข้าม และหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งคนอื่นที่พาซินแสมาดูทุกคนต่างก็หลีกเลี่ยง 3 ห้องนี้
ช่องลมนั้นแท้จริงแล้วก็คือ เป็นช่องที่บีบเพื่อเร่งให้ลมเข้ามายังอาคารมากขึ้น หากทิศทางนั้นมีพลังที่ไม่ดี ช่องลมก็จะนำพลังร้ายนั้นเข้ามาอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดเรื่องวิบัติได้ต่างๆนาๆ แต่ถ้าอยู่ในทิศทางที่มีพลังที่ดีก็กลับจะเหนี่ยวนำพลังดีเข้ามาสู่อาคารได้มาก ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว อเนกอนันต์ จนสามารถพลิกชีวิตขึ้นมาได้อย่างเกือบจะทันที
แต่ซินแสส่วนใหญ่ไม่ได้มีการศึกษาที่มาอย่างแท้จริง จึงได้ให้คำแนะนำผิดๆว่าต้องหลีกเลี่ยงไว้ก่อนทุกกรณี ทำให้มีห้องว่างเหลือตกมาถึงคุณหน่อง ถือได้ว่าเป็นโชควาสนาจึงควรไขว่คว้าเอาไว้ พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่า หลังจากที่คุณหน่องย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว ภายใน 3 ปีจะต้องผ่อนหมดโดยไม่ต้องรอถึง 20 ปี ตามกำหนดของธนาคาร และจะต้องมีเงินเหลือก้อนใหญ่ ซึ่งทำให้คุณหน่องได้ตัดสินใจซื้อทั้ง 3 ห้อง พร้อมทั้งได้จัดภายในตามที่ท่านอาจารย์มาศได้แนะนำ
1. ให้เปิดประตูหลักที่ห้องกลาง เพื่อรับพลังจากช่องลมได้อย่างเต็มที่ โดยแนะนำให้จัดสำนักงาน ให้พนักงานทุกคนรวมทั้งตัวคุณหน่องเองด้วย นั่งที่ห้องกลางนี้ ตรงกับประตูและช่องลมดังกล่าว ซึ่งเป็นพลังประจำยุคที่ 7 (พ.ศ.2527-2547)
2. เปิดประตูอีกแห่งหนึ่งที่ห้องหัวมุมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (เป็นหัวมุมสี่แยกพร้อมทั้งแนะนำให้ตั้งนำพุ) เพื่อรับพลังพิเศษที่เรียกว่า เคล็ดประตูเมือง อันเป็นเทคนิคชั้นสูงของวิชาดาวเหิน ซึ่งผู้ที่เรียนวิชาฮวงจุ้ยส่วนใหญ่ในเมืองไทยเองก็ยังไม่รู้จัก และอาจแปลกใจว่าทำไมแนะนำให้ไปตั้งที่ดาว 2 ซึ่งเป็นดาวเสื่อมทางการเงิน แต่หารู้ไม่ว่าพลังของทิศนี้มีการก่อเกิดต่อเนื่อง ส่งกำลังไปยังเคล็ดประตูเมือง จึงทำให้ทิศนี้กลายเป็นทิศที่เป็นมงคลอย่างถึงที่สุด ส่วนเทคนิควิธีการคำนวณเคล็ดประตูเมืองนั้น คงยากเกินไปที่จะนำมาอธิบายในที่นี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาอย่างเอาจริงเอาจังที่จะตามมาเรียนกับอาจารย์ในชมรมฯ โดยยินดีสอนให้อย่างอย่างไม่หวงแหนปิดบัง
3. ให้กั้นห้องเว้นช่องด้านหลังของห้องด้านขวามือสุด เพื่อเปิดหน้าต่างรับช่องลมของตึกอื่นที่พุ่งมายังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสำนักงาน เพื่อรับโชคยุค 8 ซึ่งเป็นลาภลอยและลูกค้ารายใหญ่ที่ไม่ได้คาดหวัง ซึ่งตรงนี้เป็นวิธีการออกแบบฮวงจุ้ยที่แยบยลเป็นพิเศษ และเป็นเหตุผลที่ต้องแนะนำให้ซื้อทั้งสามห้อง เพราะหากซื้อเพียงห้องเดียว พลังที่เข้ามาห้องนี้ทางด้านหลังจะกลายเป็นพลังแห่งการทะเลาะวิวาท ขัดแย้ง มีปากเสียง และคดีความ จึงต้องใช้วิธีย้ายจุดกึ่งกลางถอยมาเพื่อตั้งรับโชค เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นรุ่งเรือง แต่เนื่องจากพลังที่เข้ามาในช่องนี้ ดาวภูเขาเลข 3 ธาตุไม้ พิฆาตดาวโชคลาภเลข 8 ธาตุดิน จึงต้องอาศัยธาตุตัวกลางคือธาตุไฟ เข้ามาแก้ไข อ.มาศจึงแนะนำให้แขวนโคมไฟสีแดงในทิศนี้ แต่คุณหน่องกลัวจะไม่เพียงพอ จึงตกแต่งหลังบ้านในมุมนี้ด้วยสีดังกล่าวทั้งช่อง เพื่อประกันว่า พลังแห่งโชคลาภจะสามารถ เข้าบ้านได้เต็มที่
4. ส่วนตัวคุณหน่องเองนั้น ท่านอาจารย์มาศแนะนำให้นั่งที่ทิศตะวันตก รับปราณบารมีดาว 7 ธาตุทองหยิน ซึ่งเข้ามากับพลังประจำยุคของบุคคลรหัส 6 ธาตุทองหยาง เรียกว่า หยินหยางมีสัมพันธ์ จะทำให้ได้รับการเกื้อหนุนจากบุคคลรอบข้าง และลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจากเพศตรงกันข้าม แถมคุณหน่อง ยังไปหาหินกรวดกลมที่ขาวมาวางเสริมที่ด้านหลังของโต๊ะ โดยจัดเรียงได้อย่างสวยงาม เสริมบรรยากาศของห้อง เนื่องจากได้ทราบจากท่านอาจารย์มาศว่าทิศนี้เป็นทิศบารมีประจำยุค ต้องการสภาพที่ เป็นภูเขาหรืออาคารที่สูงใหญ่ที่เป็นธาตุดินมารองรับ คุณหน่องจึงได้ประยุคโดยการใช้หินกลม มาจัดเรียงทดแทนพลังธาตุดิน ซึ่งท่านอาจารย์มาศก็ได้แนะนำแนวทางในการเลือกหินที่ถูกหลังฮวงจุ้ยมาเสริมพลัง
5. ตรงทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้จัดการกั้นเป็นห้องนอน เพื่อไว้สำหรับน้องชายที่จะลาออกจากงานมาช่วยกิจการในอนาคต ซึ่งการเลือกใช้ทิศนี้ก็เนื่องจากเป็นดาว 8 ภูเขา ธาตุดินที่เจริญรุ่งเรืองของยุค นั่งบนฐานดาว 8 เสริมกันในภูมิตะวันตกเฉียงเหนือธาตุทอง สอดคล้องกับอาชีพ เพื่อก่อให้เกิดสภาพที่โชคประจำยุคก่อเกิดธาตุทองของดาวอาชีพที่เกี่ยวกับโลหะ ประกอบกับทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้พลังจากข่วยเคี้ยง หมายถึง การเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จในงานประเภทนี้
6. ในทิศเหนือรับปราณ 4 และ 9 คือ ไม้ก่อเกิดไฟ โดยที่ดาว 4 หมายถึง สติปัญญา ส่วนดาว 9 เป็นความสว่างไสว จึงใช้ทิศนี้เป็นโต๊ะนั่งประชุม พูดคุย และคิดค้นออกแบบงานใหม่ๆ รวมทั้งใช้ในการต้อนรับและแนะนำผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า ในขณะที่ภายนอกสำนักงาน ทิศนี้เป็นถนนรองมีสภาพโล่งและเคลื่อนไหว กระตุ้น ดาว 9 โชคลาภอันดับ 3 ในยุค 7 ให้ทำงาน ยังช่วยเหนี่ยวนำ โอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกเป็นชั้นที่ 3
นอกจากนี้ในแต่ละปี คุณหน่องยังได้เชิญท่านอาจารย์มาศไปช่วยคำนวณ เพื่อหาจุดกระตุ้นพลังโชคประจำปีอีกด้วย เพื่อเสริมพลังยกระดับกร๊าฟแห่งความเจริญรุ่งเรืองให้ถึงที่สุด จึงเป็นผลให้ธุรกิจของคุณหน่อง เจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกปี จากการเริ่มต้นด้วย 2 มือเปล่า ก้าวไปสู่การเป็นเศรษฐีนีย่อมๆ ด้วยยอดขายปีละ 50 ล้านบาท ภายในปีที่ 3 หลังจากย้ายเข้ามาอยู่เท่านั้นเอง
ซึ่งกลายเป็นว่าออฟฟิศ 3 ห้อง ที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการรองรับการขยายงาน จนต้องไปเช่าพื้นที่เพิ่มอีก 2–3 แห่ง ในบริเวณเดียวกัน และในที่สุดเธอจึงได้ตัดสินใจขยับขยายไปซื้ออาคารพาณิชย์ 5 ชั้น จำนวนอีก 6 คูหา ในทำเลเดียวกันมาตกแต่งให้เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ซึ่งก็อยู่บริเวณด้านหน้าปากซอยของถนน และได้ขอให้ท่านอาจารย์มาศไปช่วยออกแบบผังพลังงานในทางฮวงจุ้ยแก่เธออีกเช่นเคย
ปรึกษาฮวงจุ้ย ซินแส ซินเเสไฮเทค ฮวงจุ้ยยุค9 ตรวจดวง ฤกษ์ออกรถ ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์คลอด #ฮวงจุ้ย